นโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัท เรดวัน เน็ตเวิร์ค (ประเทศไทย) จำกัด

 

บริษัท เรดวัน เน็ตเวิร์ค (ประเทศไทย) จำกัด (ในที่นี้เรียกว่า “บริษัท”) ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเก็บรวบรวม การคุ้มครอง การใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอื่นๆ (ในที่นี้เรียกว่า “ข้อมูล”) ที่เกี่ยวกับท่าน ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ดังนั้น ทางบริษัท จึงได้กำหนดระเบียบข้อปฏิบัติและนโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัว (ในที่นี้เรียกว่า “ประกาศ") และการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีรายละเอียดดังนี้

 

1.          คำนิยาม

บริษัท หมายถึง บริษัท เรดวัน เน็ตเวิร์ค (ประเทศไทย) จำกัด 

 

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง

ข้อมูลที่สามารถระบุถึงตัวบุคคล หรือนิติบุคคล ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ที่บริษัทได้ไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการทำสัญญา หรือการขอรับบริการจากบริษัท เช่น ข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลหนังสือเดินทาง หมายเลขโทรศัพท์ บัญชีผู้ใช้งานและข้อมูลต่างๆในระบบเครือข่ายมือถือเรดวัน

 

ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว หมายถึง

ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้แก่ ข้อมูลเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลการทำงาน หรือข้อมูลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

 

การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง

การดำเนินการข้อมูลส่วนบุคคล ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ ประกาศจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เช่น เก็บรวบรวม บันทึก สำเนา จัดระเบียบ เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ใช้ กู้คืน เปิดเผย ส่งต่อ เผยแพร่ โอน รวม ลบ ทำลาย เป็นต้น

 

 

2.       ขอบเขตการบังคับใช้นโยบาย

ขอบเขตการบังคับใช้นโยบายนี้ สำหรับ บุคคล หรือ นิติบุคคล ที่มีความสัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องกับบริษัท ทั้งในปัจจุบันและที่อาจมีในอนาคต ได้แก่

 

2.1    ผู้ใช้สินค้าหรือบริการของบริษัท ที่เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล

2.2   ผู้ใช้สินค้าหรือบริการของบริษัท ที่เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล

2.3   พันธมิตรทางธุรกิจ เช่น ตัวแทนผู้ให้บริการเรดวัน คู่ค้า คู่สัญญาของบริษัท ทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล

2.4   ผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้ใช้สินค้าหรือบริการของบริษัท ที่ถูกระบุในเอกสารการทำธุรกรรมของบริษัท เช่น ผู้รับมอบอำนาจกระทำการแทน ผู้ประสานงาน เป็นต้น

2.5   ผู้ที่บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม คุ้มครอง ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ บุคคลที่เข้าชมเว็บไซต์ สื่อโซเชียลมีเดีย หรือแอปพลิเคชันของบริษัท เป็นต้น

2.6  ผู้ที่ได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัท หรือข้อมูลที่บริษัทได้รับผ่านช่องทางต่างๆทั้งทางตรงและทางอ้อม

2.7   เจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงาน ลูกจ้าง กรรมการบริษัท ผู้ถือหุ้น หรือผู้รับมอบอำนาจกระทำการแทนบริษัท

 

บริษัทอาจกำหนดให้มีประกาศแบบเฉพาะเจาะจงสำหรับสินค้าหรือบริการในบางรายการ ซึ่งหากมีข้อความขัดแย้งที่ต่างไปจากข้อความในประกาศฉบับนี้ ให้ถือความตามประกาศของสินค้าหรือบริการแบบเฉพาะเจาะจงนั้นๆเป็นหลัก

 

 

3.       แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ จากแหล่งข้อมูลดังนี้

3.1    ข้อมูลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง เพื่อลงทะเบียนใช้งานสินค้าหรือบริการของบริษัท

3.2   ข้อมูลจากบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาตให้กระทำการแทน เพื่อลงทะเบียนใช้งานสินค้าหรือบริการของบริษัท

3.3   ข้อมูลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง ที่ได้มาจากกิจกรรมอื่นนอกเหนือจากการใช้สินค้าหรือบริการของบริษัท เช่น การร่วมสนุกกิจกรรมการตลาด การลงทะเบียนตัวแทนผู้ให้บริการเรดวัน การสมัครงาน หรือการทำธุรกรรมสัญญาต่างๆของบริษัท

3.4   ข้อมูลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล จากการเข้าใช้งานเว็บไซต์ สื่อโซเชียลมีเดีย หรือช่องทางออนไลน์ต่างๆ เช่น การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท ด้วยการใช้คุกกี้ (Cookies) หรือจากซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

3.5   ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นนอกจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยแหล่งข้อมูลดังกล่าว มีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายหรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการเปิดเผยข้อมูลแก่บริษัท ภายใต้ข้อกฏหมายของราชอาณาจักรไทย เช่น การเชื่อมโยงบริการดิจิทัลของหน่วยงานของรัฐ

 

 

4.       คุกกี้

คุกกี้ คือระบบการจัดเก็บข้อมูลการใช้งานบนเว็บไซต์ www.redONE.co.th หรือบนอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน เพื่อจุดประสงค์ในการดำเนินการด้านความปลอดภัย ความสะดวกและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานบนเว็บไซต์ และข้อมูลที่ถูกจัดเก็บเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ของบริษัทให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าหรือลบการใช้งานคุกกี้ได้ด้วยตนเองจากการตั้งค่าในเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) บนอุปกรณ์ที่ใช้งาน

 

 

5.       ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล

 

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล

รายละเอียดและตัวอย่าง

ข้อมูลเฉพาะตัวบุคคล

ข้อมูลจากเอกสารราชการที่ระบุข้อมูลเฉพาะ เช่น

คำนำหน้าชื่อ

ชื่อ นามสกุล ชื่อกลาง

ลายมือชื่อ

เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน สัญชาติ

เลขที่ใบขับขี่

เลขที่หนังสือเดินทาง

ข้อมูลทะเบียนบ้าน

หมายเลขใบประกอบการ

หมายเลขใบอนุญาตการประกอบวิชาชีพ (สำหรับแต่ละอาชีพ)

หมายเลขประจำตัวผู้ประกันตน หมายเลขประกันสังคม เป็นต้น

ข้อมูลเกี่ยวกับคุณลักษณะของบุคคล

ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคล เช่น

วันเดือนปีเกิด

เพศ

ส่วนสูง

น้ำหนัก

อายุ

สถานภาพการสมรส

สถานภาพการเกณฑ์ทหาร

รูปถ่าย

ความชื่นชอบ

ข้อมูลการเป็นบุคคลล้มละลาย

ข้อมูลการเป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ เป็นต้น

ข้อมูลสำหรับการติดต่อ

หมายเลขโทรศัพท์บ้าน

หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่

หมายเลขโทรสาร

อีเมล
ที่อยู่ทางไปรษณีย์บ้าน ชื่อผู้ใช้งานในสังคมออนไลน์ (Line ID, MS Teams)

แผนที่ตั้งของที่พัก เป็นต้น

ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานและการศึกษา

ประวัติการทำงาน

ประวัติการศึกษา

ข้อมูลบุคคลอ้างอิง

หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี

ประวัติการทำงาน

ข้อมูลเงินเดือน

ผลงาน

หมายเลขบัญชีธนาคาร เป็นต้น

ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของบริษัท

รายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของบริษัท เช่น

ชื่อบัญชีผู้ใช้งาน

รหัสผ่าน

รหัส OTP

ข้อมูลทางคอมพิวเตอร์

ภาพถ่าย วีดีโอ บันทึกเสียง

ข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานบนเว็บไซต์และสื่อโซเชียลมีเดียของบริษัท

ประวัติการสืบค้น คุกกี้หรือเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน เป็นต้น

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน เช่น

เชื้อชาติ

ข้อมูลศาสนา

ข้อมูลความพิการ

ประวัติอาชญากรรม

ข้อมูลชีวภาพ (ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า)

ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ เป็นต้น

 

 

6.      วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีการดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์หลายประการ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบทความเกี่ยวข้องระหว่างท่านกับบริษัทเป็นสำคัญ ซึ่งวัตถุประสงค์การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปของบริษัท มีรายละเอียดในภาพรวม ดังนี้

6.1   เพื่อการให้บริการตามคำร้องของผู้ใช้งาน ภายใต้สัญญาการใช้สินค้าหรือบริการของบริษัท เช่น การสมัครการแพ็กเกจเรดวัน การสร้างบัญชีผู้ใช้งานเรดวัน หรือการเป็นตัวแทนผู้ให้บริการเรดวัน เป็นต้น

6.2  เพื่อการพิสูจน์ ตรวจสอบ และยืนยันตัวตนผู้ใช้บริการระบบเครือข่ายมือถือเรดวัน ตามระเบียบข้อบังคับของ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และกฏหมายที่เกี่ยวข้อง

6.3  เพื่อการทำธุรกรรมของบริษัท เช่น การแจ้งค่าบริการ การจัดทำเอกสารใบแจ้งหนี้ หรือใบเสร็จรับเงิน เป็นต้น

6.4  เพื่อความสะดวกในการใช้สินค้าหรือบริการ เช่น การตรวจสอบการใช้แพ็กเกจเรดวัน หรือ การแจ้งยอดผลตอบแทนของตัวแทนผู้ให้บริการเรดวัน เป็นต้น

6.5  เพื่อเก็บรักษาและจัดการข้อมูลที่เกี่ยวกับผู้ใช้งาน ตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ประวัติข้อมูลการชำระค่าบริการ เป็นต้น

6.6  เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับการให้บริการของบริษัท

6.7   เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาดของบริษัทและกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจ

6.8  เพื่อประชาสัมพันธ์ ข้อมูลข่าวสาร รายการส่งเสริมการขาย สิทธิประโยชน์ของสินค้าหรือบริการต่างๆ ของบริษัทและกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจ

6.9  เพื่อความปลอดภัยหรือการป้องกันเหตุอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของบุคคล

6.10 เพื่อปฏิบัติตามข้อกฏหมายของราชอาณาจักรไทย หรือเพื่อประโยชน์อันชอบตามกฎหมายของบริษัท

6.11  เพื่อการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องตามที่กฎหมายกำหนด โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

6.12 เพื่อสอบถาม ประเมินความเข้าใจ ความต้องการและความพึงพอใจของผู้ใช้งาน และการปรับปรุง พัฒนาบริการหลังการขาย หรือตามที่ได้รับการร้องเรียนจากผู้ใช้งานหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทในช่องทางต่างๆ

6.13 เพื่อการแจ้งข้อมูล ข่าวสาร ให้แก่หน่วยงานกำกับดูแลและภาครัฐที่มีอำนาจตามกฎหมาย

6.14 เพื่อป้องกัน ตรวจจับ หลีกเลี่ยง และตรวจสอบการฉ้อโกง การละเมิดความปลอดภัยหรือการกระทำที่ต้องห้าม หรือผิดกฎหมาย และอาจเกิดความเสียหายต่อทั้งบริษัทและเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

6.15 เพื่อดำเนินการตามที่จำเป็นในการบริหารจัดการภายในองค์กร เช่น การรับสมัครงาน การสรรหากรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งต่าง ๆ การประเมินคุณสมบัติ เป็นต้น

 

 

7.       ฐานทางกฏหมาย

ในส่วนของการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลตามฐานทางกฏหมาย บริษัทมีการดำเนินการตามรายละเอียดที่ระบุในสัญญาระหว่างท่านกับบริษัท ภายใต้ข้อกฎหมายเพื่อความมั่นคง ปลอดภัย ของราชอาณาจักรไทย ซึ่งหากท่านไม่ให้ข้อมูลดังกล่าว บริษัทอาจไม่สามารถดำเนินการซื้อขายสินค้าหรือให้บริการแก่ท่านได้

 

 

8.     ประเภทบุคคลที่บริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทยึดถือนโยบายในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเคร่งครัด ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เว้นแต่เป็นการเปิดเผยข้อมูลตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น เช่น

8.1   ตัวแทนผู้ให้บริการเรดวัน ที่ได้รับสิทธิ์การให้บริการอย่างเป็นทางการจากบริษัท

8.2  ผู้ให้บริการด้านการขนส่ง เช่น บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นต้น

8.3  ผู้ให้บริการเกี่ยวกับการทำธุรกรรมและการเงิน เช่น ธนาคาร หรือ บริษัทรับชำระเงิน

8.4  ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยี ที่เกี่ยวข้องกับระบบเครือข่ายมือถือเรดวัน

8.5  บริษัทที่ปรึกษาทางวิชาชีพ เช่น เอเจนซี่ด้านการตลาด บริษัทที่ปรึกษาด้านกฏหมาย

8.6  หน่วยงานตรวจสอบการบริหารจัดการข้อมูลทั้งภายนอกและภายใน เพื่อตรวจสอบและป้องกันการทุจริต

8.7  หน่วยงานภาครัฐ ที่มีอำนาจควบคุม บังคับและกำกับการดูแลข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย

8.8  หน่วยงานที่ปฏิบัติตามคำสั่งทางกฎหมาย หน่วยงานตรวจสอบ หรือกระบวนการทางกฎหมาย / การฟ้องร้อง

8.9  บุคคลอื่นที่จำเป็นเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจและให้บริการแก่ผู้ใช้งาน

ทั้งนี้ ประเภทของบุคคลผู้รับข้อมูลที่ระบุไว้ข้างต้น เป็นเพียงกรอบการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท เฉพาะบุคคลผู้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการ หรือธุรกรรมเฉพาะของท่านเท่านั้น  ที่จะมีผลต่อการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน

 

 

9.      การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ เช่น การส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังระบบคลาวด์ (Cloud) ที่มีแพลตฟอร์มหรือเครื่องแม่ข่าย (Server) อยู่ต่างประเทศ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการใช้สินค้าหรือบริการของท่าน หรือประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจในภาพรวม อย่างไรก็ตาม การส่งโอนข้อมูลต่างๆ จะถูกดำเนินการภายใต้นโยบายและมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

 

10.             ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามความจำเป็น ในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในนโยบาย ประกาศหรือตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลา หรือข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสิ้นความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ต่างๆที่เกี่ยวข้อง บริษัทจะทำการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามมาตรฐานการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดหรือตามมาตรฐานสากล

 

ในกรณีที่มีข้อพิพาท การใช้สิทธิ หรือคดีความอันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าข้อพิพาทนั้นมีข้อสรุป หรือได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุด

 

 

11.   การเชื่อมต่อเว็บไซต์หรือบริการภายนอก

บริการของบริษัทอาจมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม ซึ่งอาจมีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่แตกต่างจากนโยบายนี้ บริษัทขอแนะนำให้ท่านศึกษารายละเอียดของนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการนั้น ๆ เพื่อทราบก่อนการเข้าใช้งาน

 

ทั้งนี้ บริษัทไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่มีอำนาจควบคุมถึงมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าวและไม่สามารถรับผิดชอบต่อเนื้อหา นโยบาย ความเสียหายหรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม

 

 

12. ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านสามารถขอใช้สิทธิของท่านภายใต้ข้อกฎหมายของราชอาณาจักรไทย หรือตามนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้ หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต โดยสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัท ดำเนินการผ่านตัวแทนผู้ให้บริการเรดวัน หรือตามช่องทางที่บริษัทกำหนด โดยบริษัทจะมีขั้นตอนให้ท่านแสดงหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่าท่านเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจริง

 

อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในบางกรณี หรือปฏิเสธคำขอการใช้สิทธิ หากพบว่าเป็นคำขอที่ไม่มีมูล เกินจำเป็น หรือเป็นคำร้องขอใช้สิทธิที่ไม่สุจริต ไม่สมเหตุสมผล ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง ภายใต้ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

 

สำหรับสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้กำหนดสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้หลายประการ โดยรายละเอียดของสิทธิต่าง ๆ ประกอบด้วย

12.1  สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอเข้าถึง รับสำเนาและขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้โดยปราศจากความยินยอมของท่าน เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านด้วยเหตุตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่การใช้สิทธิของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น

12.2 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน หากท่านพบว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วนหรือไม่เป็นปัจจุบัน ท่านมีสิทธิขอให้แก้ไขเพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้

12.3 สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ต่อไป ทั้งนี้ การใช้สิทธิลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด

12.4 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ ในกรณีดังต่อไปนี้

     เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่บริษัททำการตรวจสอบตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน

    ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

    เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้แจ้งในการเก็บรวบรวม แต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประสงค์ให้บริษัทเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมาย

     เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่บริษัทกำลังพิสูจน์ถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

12.5          สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน เว้นแต่กรณีที่บริษัท มีเหตุในการปฏิเสธคำขอโดยชอบด้วยกฎหมาย

12.6 สิทธิในการขอถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรักษาโดยบริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิโดยกฎหมาย ให้บริษัทจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลต่อไปหรือยังคงมีสัญญาระหว่างท่านกับบริษัทที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่

12.7 สิทธิในการขอรับ ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบริษัทในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไป รวมถึงอาจขอให้บริษัท ส่งหรือโอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังบุคคลที่สาม ภายใต้ข้อกฏหมายของราชอาณาจักรไทย

 

 

13. การปรับปรุงแก้ไขนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจมีการปรับปรุง แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงนโยบายและจะทำการแจ้งผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.redONE.co.th โดยมีการระบุวันที่มีผลบังคับใช้ อย่างไรก็ดี บริษัทขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบเพื่อรับทราบนโยบายของประกาศที่มีการปรับปรุงแก้ไข อย่างสม่ำเสมอผ่านทาง เว็บไซต์ หรือช่องทางที่บริษัทกำหนด ก่อนที่ท่านจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท

 

อย่างไรก็ดี ท่านสามารถหยุดการใช้สินค้าหรือบริการของบริษัท หากไม่เห็นด้วยกับรายละเอียดในนโยบายฉบับนี้และโปรดติดต่อมายังบริษัทเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไป

 

14. การติดต่อสอบถามหรือใช้สิทธิ

หากมีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท สามารถติดต่อได้ที่

 

ที่อยู่

บริษัท เรดวัน เน็ตเวิร์ค (ประเทศไทย) จำกัด

เลขที่ 1  อาคาร TP&T (ที พี แอนด์ ที) ชั้น 17 ซอยวิภาวดีรังสิต 19 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กทม. 10900

หมายเลขโทรศัพท์

02-095-5611

ให้บริการทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น

LINE Official

@redONEThailand

ให้บริการทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น.

 

Messenger

redONEThailand 

ให้บริการทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น.

อีเมล

operations@redONE.co.th

เว็บไซต์

www.redONE.co.th