นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้า

บริษัท เรดวัน เน็ตเวิร์ค (ประเทศไทย) จำกัด ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้อธิบายแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

วัตถุประสงค์ของนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึงข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าของเรดวัน ซึ่งท่านได้ให้ไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางสัญญาและรับบริการจากทางเรดวัน เช่น ชื่อ บัตรประจำตัวประชาชน / เลขที่หนังสือเดินทาง ที่อยู่ ข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมกับ redONE เช่น หมายเลขติดต่อ หมายเลขบัญชี ยอดคงเหลือในบัญชี ประวัติการชำระเงิน และความเคลื่อนไหวในบัญชีเรดวัน

“ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน” ประกอบด้วยข้อมูลที่เกี่ยวกับสุขภาพหรือสภาพร่างกายหรือจิตใจของลูกค้า ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อทางศาสนา หรือความเชื่ออื่น ๆ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน การกระทำหรือการกล่าวหาว่ากระทำความผิดหรือข้อมูลส่วนบุคคลอื่นใดที่กำหนดโดยกฎหมาย

หน้าที่และความรับผิดชอบ

โดยทั่วไป เราจะเป็นผู้กำหนดวัตถุประสงค์และวิธีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้น เราจึงปฏิบัติหน้าที่เป็น "ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล" ตามนิยามของประกาศของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ว่าด้วยเรื่อง มาตรการคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้บริการโทรคมนาคมเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในความเป็นส่วนตัวและเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยทางโทรคมนาคม รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้เรามีความรับผิดชอบตามกฎหมายเพื่อทำให้การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นเป็นไปตามหลักนโยบายความเป็นส่วนตัวที่สำคัญ นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ และกฎหมายที่ใช้บังคับ

วันที่มีผลบังคับใช้

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้มีผลบังคับใช้ ณ วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ.2565

การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

เรดวันจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากใบสมัครสมาชิกของท่าน ใบสมัครใช้งานเครือข่ายโทรศัพท์แบบรายเดือน และข้อมูลเมื่อท่านเข้าใช้บริการของเรดวันหรือติดต่อกับฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของเรดวัน

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม

เมื่อท่านสมัครเพื่อเข้าใช้บริการใดของเรา หรือเมื่อท่านได้รับการบริการใดจากเรา ท่านอาจต้องแจ้งข้อมูลส่วนบุคคลที่ชัดเจนให้เรา ข้อมูลดังกล่าวรวมถึงข้อมูลดังต่อไปนี้

ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ วันเดือนปีเกิด สัญชาติ เลขประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง เป็นต้นเมื่อมีการลงทะเบียนเพื่อเข้าใช้บริการใดบริการหนึ่งของเราผ่านทางศูนย์บริการทางออนไลน์ หรือทางโทรศัพท์

ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล เป็นต้น

ข้อมูลบัญชี เช่น บัญชีผู้ใช้งาน ประวัติการใช้งาน เป็นต้น

หลักฐานแสดงตัวตน เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง เป็นต้น

ข้อมูลการทำธุรกรรมและการเงิน เช่น ประวัติการสั่งซื้อ รายละเอียดบัตรเครดิต บัญชีธนาคาร เป็นต้น

ข้อมูลทางเทคนิค เช่น IP address, Cookie ID, ประวัติการใช้งานเว็บไซต์ (Activity Log) เป็นต้น

ข้อมูลอื่น ๆ เช่น รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว และข้อมูลอื่นใดที่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้เยาว์

หากท่านมีอายุต่ำกว่า 20 ปีหรือมีข้อจำกัดความสามารถตามกฎหมาย เราอาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เราอาจจำเป็นต้องให้พ่อแม่หรือผู้ปกครองของท่านให้ความยินยอมหรือที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ หากเราทราบว่ามีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้เยาว์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากพ่อแม่หรือผู้ปกครอง เราจะดำเนินการลบข้อมูลนั้นออกจากเซิร์ฟเวอร์ของเรา

วิธีการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบเอกสารและรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์

เราเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยใช้เซิร์ฟเวอร์บริษัทของเราในประเทศไทย

การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

เราจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  • เพื่อสร้างและจัดการบัญชีผู้ใช้งาน
  • เพื่อให้เรดวันหรือองค์กรอื่นๆภายใต้เรดวันดำเนินการต่างๆโดยอยู่ภายใต้กฎหมายหรือข้อบังคับใดๆ รวมถึงดำเนินการตามภาระผูกพันใดๆที่กำหนดภายใต้สัญญาของเรดวันกับลูกค้า
  • เพื่อให้เรดวันหรือองค์กรอื่นๆภายใต้เรดวัน สามารถทำหน้าที่เป็นช่องทางการชำระเงินของเรดวันเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรักษาบันทึกทางการเงิน การประเมินหรือตรวจสอบเครดิตและอำนวยความสะดวกในการชำระเงินใดๆอันเนื่องมาจากการใช้บริการกับเรดวัน
  • เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงข้อมูล โปรโมชัน และการอัพเดทต่างๆจากฝ่ายการตลาดของเรดวัน รวมถึงสื่อการตลาดซึ่งเกี่ยวกับสินค้าและบริการของเราที่เหมาะสมกับท่านโดยการเลือกของเรดวัน
  • เพื่อโปรโมตสินค้าและ/หรือบริการ รวมถึงข้อเสนอพิเศษจากบุคคลภายนอกที่เราคิดว่าเหมาะสมกับท่าน
  • เพื่อการบริการหลังการขาย
  • เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะจากท่าน
  • เพื่อให้หน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมาย ตรวจสอบหรือป้องกันอาชญากรรมและหรือการฉ้อโกงต่างๆ
  • เพื่อบุคคล หรือหน่วยงานใดๆที่มีอำนาจตามกฎหมายในการดำเนินการเกี่ยวกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือกระบวนการในการพิจารณาคดี
  • เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบของหน่วยงานราชการ
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่านหรือที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ ดังต่อไปนี้

การบริหารจัดการภายในองค์กร

เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในบริษัทเท่าที่จำเป็นเพื่อปรับปรุงและพัฒนาสินค้าหรือบริการของเรา เราอาจรวบรวมข้อมูลภายในสำหรับสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ภายใต้นโยบายนี้เพื่อประโยชน์ของท่านและผู้อื่นมากขึ้น

พันธมิตรทางธุรกิจ

เราอาจเปิดเผยข้อมูลบางอย่างกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อติดต่อและประสานงานในการให้บริการสินค้าหรือบริการ และให้ข้อมูลเท่าที่จำเป็นเกี่ยวกับความพร้อมใช้งานของสินค้าหรือบริการ

การบังคับใช้กฎหมาย

ในกรณีที่มีกฎหมายหรือหน่วยงานราชการร้องขอ เราจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นให้แก่หน่วยงานราชการ เช่น ศาล หน่วยงานราชการ เป็นต้น

การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

เราอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคล องค์กร หรือเซิร์ฟเวอร์ (Server) ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ โดยเราจะดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศปลายทางนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอ หรือกรณีอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด

ระยะเวลาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้าหรือมีความสัมพันธ์อยู่กับเราหรือตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายฉบับนี้ ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้น หากมีกฎหมายกำหนดไว้ เราจะลบ ทำลาย หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว

สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล  ท่านมีสิทธิในการดำเนินการดังต่อไปนี้

สิทธิขอถอนความยินยอม (right to withdraw consent) หากท่านได้ให้ความยินยอม เราจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดเวลา

สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล (right to access) ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของเราและขอให้เราทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน  รวมถึงขอให้เราเปิดเผยว่าเราได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร

สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล (right to data portability) ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่เราได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้เราส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เราส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค

สิทธิขอคัดค้าน (right to object)  ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผลหรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์

สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล (right to erasure/destruction) ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือเห็นว่าเราหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว

สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล (right to restriction of processing) ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่เราอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่านหรือกรณีอื่นใดที่เราหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้เราระงับการใช้แทน

สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล (right to rectification) ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

สิทธิร้องเรียน (right to lodge a complaint) ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ท่านสามารถใช้สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นได้ โดยติดต่อมาที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเราตามรายละเอียดท้ายนโยบายนี้ เราจะแจ้งผลการดำเนินการภายในระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่เราได้รับคำขอใช้สิทธิจากท่าน ตามแบบฟอร์มหรือวิธีการที่เรากำหนด ทั้งนี้ หากเราปฏิเสธคำขอเราจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น

การโฆษณาและการตลาด

เราอาจส่งข้อมูลหรือจดหมายข่าวไปยังอีเมลของท่าน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอสิ่งที่น่าสนกับท่าน ทั้งนี้ ท่านสามารถปฏิเสธการกระทำดังกล่าวของเราได้

ทั้งนี้ หากท่านไม่ต้องการรับการติดต่อสื่อสารจากเรา แต่เรายังคงส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการบริการที่เราให้บริการแก่ท่านอยู่

เทคโนโลยีติดตามตัวบุคคล (Cookies)

เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานของท่านให้สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เราใช้คุกกี้ (Cookies)หรือเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกัน เพื่อพัฒนาการเข้าถึงสินค้าหรือบริการ โฆษณาที่เหมาะสม และติดตามการใช้งานของท่าน เราใช้คุกกี้เพื่อระบุและติดตามผู้ใช้งานเว็บไซต์และการเข้าถึงเว็บไซต์ของเรา หากท่านไม่ต้องการให้มีคุกกี้ไว้ในคอมพิวเตอร์ของท่าน ท่านสามารถตั้งค่าบราวเซอร์เพื่อปฏิเสธคุกกี้ก่อนที่จะใช้เว็บไซต์ของเราได้

การรักษาความมั่งคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

เราจะรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามหลักการ การรักษาความลับ (confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (availability) ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผย นอกจากนี้เราจะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (administrative safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (technical safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (physical safeguard) ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล (access control)

การแจ้งเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่มีเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเกิดขึ้น เราจะแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยไม่ชักช้าภายใน 72 ชั่วโมง นับแต่ทราบเหตุเท่าที่สามารถกระทำได้ ในกรณีที่การละเมิดมีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของท่าน เราจะแจ้งการละเมิดให้ท่านทราบพร้อมกับแนวทางการเยียวยาโดยไม่ชักช้าผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น  เว็บไซต์ ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น

การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว

เราอาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้เป็นครั้งคราว โดยท่านสามารถทราบข้อกำหนดและเงื่อนไขนโยบายที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนี้ได้ผ่านทางเว็บไซต์ของเรา

นโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์อื่น

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ใช้สำหรับการเสนอสินค้า บริการ และการใช้งานบนเว็บไซต์สำหรับลูกค้าของเราเท่านั้น หากท่านเข้าชมเว็บไซต์อื่นแม้จะผ่านช่องทางเว็บไซต์ของเรา การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ จะเป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์นั้น ซึ่งเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

รายละเอียดการติดต่อ

หากท่านต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ รวมถึงการขอใช้สิทธิต่าง ๆ ท่านสามารถติดต่อเราหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเราได้ ดังนี้

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

ฝ่ายปฏิบัติการ

บริษัท เรดวัน เน็ตเวิร์ค (ประเทศไทย) จำกัด

เลขที่ 1 ซอยวิภาวดีรังสิต 19 ถนนวิภาวดีรังสิต  แขวงจตุจักร  เขตจตุจักร  กรุงเทพมหานคร  10900

อีเมล Operations@redone.co.th

เว็บไซต์ https://www.redone.co.th/

หมายเลขโทรศัพท์ 02-150-2141